ณ ที่แห่งหนึ่ง.....
สวัสดีครับ....วันนี้คงจะเป็นวันที่สำคัญมากๆและเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งสำหรับประเทศของเรา...ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง(หลังจากไม่มีมา7ปี)...นั่นเองครับ และแน่นอนตัวผมเองก็ไม่ได้นอนหลับทับสิทธิ์ถึงแม้ว่ากว่าจะเดินไปเข้าคูหาก็ปาไปบ่าย3กว่าๆแล้วก็ตาม ซึ่งก็ไม่ใช่เพราะทำงานหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะแดดที่มันร้อนมากจนแทบจะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวผมเองเลยเลือกที่จะนอนตากเครื่องปรับอากาศอยู่บ้านไปก่อน รอให้แดดเบาบางลงไปจึงค่อยเดินทางไปหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ใกล้ๆบ้าน ซึ่งตอนไปเลือกก็ได้ดูหน่วย ดูเลขที่ จาก App SmartVote เรียบร้อยเวลาไปเลือกเลยจึงสบายกว่าคนอื่นๆที่ไม่รู้หน่วยของตัวเอง...ก็น่าจะไม่มีอะไรจนตอนนี้ได้ดูข่าวทาง TV ช่องหนึ่ง ซึ่งนานมากแล้วที่ผมจะหยิบรีโมทเปิดดู TV เพราะเดี๋ยวนี้อะไรๆก็อยู่ใน SmartPhone กันหมดแล้ว ซึ่งเปิดมาก็เจอกับข่าวการเลือกตั้งในวันนี้ ผมก็ดูข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การนับคะแนนวันนี้ไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ...แต่มาสะดุดกับข่าวที่รายงานผลการเลือกตั้งนี่แหละครับ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางท่าน( ที่เราเรียกว่า ส.ส. นั่นแหละครับ ) มีความผิดทางอาญา ( เราจะไม่พูดถึงคดีความกันนะครับ ) แต่ได้รับการเลือกตั้งชนะในเขตของท่านเอง ซึ่งผมก็แปลกใจว่า..เมื่อดูอดีตของท่าน ส.ส. ท่านนี้มันดันไปตรงกับเรื่องเล่าของ อาจารย์ ท่านหนึ่งที่เคยเล่าเรื่องให้ผมฟังว่า.....สมัยเด็กๆ ท่านอาจารย์เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก หัวดี มีคุณสมบัติครบถ้วน รวมหน้าตาดีด้วยนะครับ( ฮ่าๆๆ )จะขาดก็เพียงอย่างเดียว คือ ฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยจะไหลลื่นสักเท่าไหร่นัก ผิดกับเพื่อนท่าน ที่แม้จะขี้เกียจ ทำงานไม่เป็น ลอกแต่คนอื่น หัวก็ไม่ค่อยดี เอาแต่เกเร รังแกคนอื่นไปทั่ว แต่สิ่งที่เขามีคือ ฐานะทางบ้านที่ร่ำรวยมาก ตัวท่านเองเลยถีบตัวเองออกมาจากจุดนั้น ค้นคว้าหาความรู้
เพิ่มเติมจนได้จบ ปริญญาเอก เมื่อวันที่ท่านมีทุกอย่างเรียบร้อย ท่านจึงอยากจะกลับมาพัฒนาบ้านของท่านเอง...แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ...จากเด็กที่เคยลอกคนอื่นและขี้เกียจคนนั้น ลงสมัคร ส.ส. ในวันนี้....ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าเพื่อนของท่านอาจารย์คนนี้ ถึงแม้จะมีคดีความติดตัวมากมาย(คดีดังระดับประเทศ)แต่ถึงกระนั้นก็ได้บริจาคเงินสนับสนุนพัฒนาหมู่บ้านมาโดยตลอด...ผิดกับ ตัวท่านอาจารย์เองที่ทิ้งหมู่บ้านไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ความเชื่อใจจากชาวบ้าน ไม่มีเลย ถึงแม้จะมีคำนำหน้าว่า ดร. ก็ตามที
แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชาวบ้านเชื่อถือและไว้ใจเพิ่มขึ้นเลย ดังนั้น ส.ส. ในเขตนี้จึงเป็นเพื่อนของท่าน นั่นเองครับ ที่บ่นยาวๆมาเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเข้าใจแล้วว่า ......"เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เกือบจะทุกอย่างชื้อได้ด้วยเงิน" และแน่นอนผมไม่ได้บอกว่า เพื่อนของท่านอาจารย์ชื้อเสียงนะครับ
เพียงแต่เขาใช้ Relationship กับคนในหมู่บ้านมาเป็นเวลานานมากกว่า .... นั่นเองครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอให้คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 62 มาจากการเลือกตั้งโดยปราศจากการทุจริตทุกรูปแบบ และเข้าใจสถานะการบ้านเมืองและพัฒนาทุกๆอย่าง ตามแบบที่ประเทศของเราควรจะเป็นครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม